Ex.03 เริ่มต้นการสร้างโปรเจ็ค

1. เปิดโปรแกรม Microsoft Visual Studio 2008
2. เลือกเมนู File แล้วเลือก New Project เพื่อสร้างโปรเจ็กต์ใหม่
3. หน้าต่าง New Project เลือกรายการ Visual Basic > Windows > Console Application
4. ตั้งชื่อโปรแกรมที่ชื่อว่า “Hello”
5. คลิกที่ปุ่ม OK

ภาพที่ Ex.01-1  แสดงขั้นตอนการสร้างโปรเจ็คใหม่

6. ทดลองเขียนโปรแกรมแรก ดังต่อไปนี้

ภาพที่ Ex.01-2  ชุดคำสั่งที่ใช้ในการทดสอบ

• เขียนโปรแกรมในกรอบ
• กด F5 เพื่อคอมไพล์(รัน) 

ภาพที่ Ex.01-3  ผลการรันจากชุดคำสั่งที่เราเขียนเอาไว้

หมายเหตุ :

1. ระหว่างการรันโปรแกรมจะอยู่สถานะไม่สามารถแก้ไขโค้ดได้
2. แต่หากต้องการแก้ไขสามารถคลิกที่

อธิบายส่วนประกอบของโปรแกรมตัวอย่าง

1.  เรียกใช้คลาส Console 

2.  จากนั้นระบุเมธอดโดยส่วนมากนิยม WriteLine()

3.  พิมพ์ค่าอาร์กิวเม้นต์ ชนิดข้อความภายใต้เครื่องหมาย  “  ”

************************************************************************

อ่านต่อ...

Ex.02 ทำไมต้องเริ่มต้นจาก Console Application ?

             เหตุผลที่ได้เลือกให้เริ่มเขียนโปรแกรมบน Console สำหรับผู้เริ่มต้นฝึกการเขียนโปรแกรม ซึ่งจำเป็นจะต้องศึกษาทำความเข้าใจกับคำสั่งโครงสร้างและข้อกำหนดต่างๆ ก่อนของหลักการเขียนโปรแกรม เช่น การประกาศตัวแปร การใช้ตัวดำเนินการ คำสั่งตัดสินใจ คำสั่งวนรอบ  ซึ่งจะเป็นส่วนที่ดี เมื่อศึกษาขึ้นสูงต่อไปซึ่งจะทำให้ไม่เกิดความสับสนเกี่ยวกับการจดจำ method และ Properties ของเครื่องมือตัวควบคุมต่างๆ กับโครงสร้างการเขียนโปรแกรม โดยที่การเขียนโปแกรมด้วย VB.NET สามารถพัฒนาแบบมีส่วนตัวติดต่อกับผู้ใช้ได้ผ่านหน้าต่าง หรือ Windows

ดังนั้นก่อนการเริ่มต้นเขียนโปรแกรมในระดับนี้จะต้องมีทำความเข้าใจก่อนคือ

1. “เมธอด” ก็คือ ฟังก์ชั่น ซึ่งฟังก์ชั่นจะสนใจอยู่ 2 ประเด็นคือ สิ่งที่ส่งเข้าไป และ สิ่งที่ส่งออกมา
2. “คลาส” ก็คือ แหล่งรวมเมธอด (ฟังก์ชั่น) หลายๆตัวที่ทำงานคล้ายกัน

"ความสำเร็จของก้าวสุดท้าย เริ่มจากก้าวแรกเสมอ" 

อ่านต่อ...

Ex.01 Project (โครงการ) คืออะไร ?

Project (โครงการ) คืออะไร ?
โครงการ หมายถึง กระบวนงานที่ประกอบไปด้วยกิจกรรมหลายๆ กิจกรรม ซึ่งมีลำดับก่อนหลังอย่างชัดเจน  เป็นกระบวนการที่สร้างความเปลี่ยนแปลง กระทำเพื่อสนองหรือสนับสนุนต่อวัตถุประสงค์โดยตรง กระบวนการนั้นๆ ทำเป็นการเฉพาะกิจ 
ตัวอย่าง โปรแกรมคลินิก (ProjectClinic)

หากเปิดด้วยโปรแกรม Editor(Notepad) จะพบกับคำสั่งในโครงสร้างไฟล์ ดังนี้

ตำแหน่งของไฟล์ Project ที่มีนามสกุล .vbproj

ไฟล์ชนิดต่างๆ ที่เห็นจากภาพที่ผ่านมา มีการทำงานร่วมกันในโปรเจ็ค ชื่่อโปรเจ็คตัวอย่างในที่นี้คือ ProjectClinic

อ่านต่อ...

C. ลงทะเบียนเพื่อขอรับ Product Key ให้ใช้งานได้เกิน 30 วัน

ในบทความที่ผ่านมา เรื่อง Ex.2 ขั้นตอนการติดตั้ง VB.NET 2012 เราได้ยังไม่ได้ลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นผลทำให้เราสามารถใช้โปรแกรม ได้เพียง 30 วันเท่านั้น เพื่อให้มีสิทธิ์ในการพัฒนาโปรแกรมอย่างถูกต้อง ในตอนนี้ถ้าหากยังเปิดหน้าต่างดังภาพที่ 1 ค้างเอาไว้อยู่ก็สามารถคลิกที่ปุ่ม Register online เพื่อลงทะเบียนโปรแกรม แต่จะต้องเตรียมอีเมล์ของ Hotmail ไว้ด้วยนะครับ เนื่องจากจะต้องใช้ลงทะเบียน

ภาพที่ 1  หน้าต่างลงทะเบียนผลิตภัณฑ์  Visual Studio 2012 Express

หรือหากไม่พบหน้าต่างในภาพที่ 1 ก็สามารถเรียกได้จากขั้นตอนต่อไปนี้

1.  เรียกโปรแกรมจาก Start Menu ตามภาพที่ 2 แล้วคลิกที่รายการ VS Express for Desktop

ภาพที่ 2 เรียกโปรแกรม จาก Start Menu

2. ยังไม่ต้องสนใจส่วนอื่นของโปรแกรม จากนั้นคลิกที่เมนู HELP  แล้วเลือกรายการ Register Product ตามภาพที่ 3

ภาพที่ 3  แสดงขั้นตอนการเลือกรายการ Register Product 

3.  ก็จะพบกับหน้าต่าง การลงทะเบียนเช่นกัน จากนั้นก็คลิกที่ลิงค์ Register online แล้วจะเปิดบารว์เซอร์ขึ้นมา อย่าลืมเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วยนะครับ

ภาพที่ 4  หน้าต่างลงทะเบียนผลิตภัณฑ์  Visual Studio 2012 Express

4. เราต้องล๊อคอินด้วยอีเมล์ของ Hotmail

ภาพที่ 5 ลงชื่อเข้าใช้งาน hotmail ก่อน

5. ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวในหน้า Profile center ซึ่งจะมีข้อมูลที่เราเคยสมัครอีเมล์เอาไว้ ควรใส่ให้ถูกต้อง แล้วจากนั้นก็คลิกที่ปุ่ม Continue 

ภาพที่ 6 แสดงข้อมูลส่วนตัวในหน้า Profile center

6. เลือกประเภทการสร้างซอฟต์แวร์เพื่อนำไปใช้ ซึ่งจะมีให้เลือกอยู่ 3 แบบ คือ

•  public distribution  เพื่อจำหน่าย จ่ายแจก
•  online use เพื่อใช้งานออนไลน์โดยคนอื่น
•  private use เพื่องานส่วนตัว

ในที่นี้ให้คลิกเลือกแบบ private use จากนั้นก็คลิกทีปุ่ม Continue  

ภาพที่ 7 แสดงขั้นตอนการเลือกประเภทการสร้างซอฟต์แวร์

7. รอสักครู่..เราก็จะได้ Product Key สำหรับเอาไปกรอกในโปรแกรม Visual Studio 2012 Express  แล้ว

รหัสที่ได้มา ไม่ควรใช้ร่วมกับคนอื่นนะครับ เผื่อไมโครซอฟต์เขาตรวจสอบสิทธิ์  ถ้ามีใครมาขอก็ให้เข้าสมัครเองจะดีกว่า

ภาพที่ 8 แสดงชุดหมายเลข Product Key

8. แล้วนำ Product Key ที่ได้ไปป้อนในโปรแกรม คัดลอกจากเว็บมาเลยครับสะดวกดี จากนั้นก็คลิกที่ปุ่ม Next เพื่อให้ระบบตรวจสอบความถูกต้องของคีย์

ภาพที่ 9 แสดงการป้อน Product Key

9. ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็จะมีข้อความแจ้งความเรียบร้อยในการลงทะเบียน ดังภาพที่ 10 คลิกที่ปุ่ม Close เป็นอันเสร็จพิธี และผมขอยินดีกับความสำเร็จด้วยครับ ^^

ภาพที่ 10 ข้อความแจ้งผลในการลงทะเบียน

บทความนี้ยาวเหลือเกินไม่ไหวแล้ว ขอพักผ่อนนอนหลับก่อนนะครับ

************************************************************

ขอส่งท้ายด้วยคำคมๆ เช่นเคย ^^

อ่านต่อ...

B. ขั้นตอนการติดตั้ง VB.NET 2012

จากบทความที่ผ่านมาเราได้ดาวน์โหลดไฟล์มาแล้วขนาด 607 Mb.  หากไม่ยังไม่มีให้กลับไปดูที่หัวข้อ

Ex.1 ดาวน์โหลดไฟล์ Visual Studio Express 2012  เพื่อจะได้ไฟล์สำหรับติดตั้งครับ

ภาพที่ 1  ไฟล์ ISO ของ Visual Studio 2012 Express

เสร็จแล้ว ก็แตกไฟล์ VS2012_WDX_ENU.ISO ออกจะได้ไฟล์และไฟเดอร์ดังภาพ

ภาพที่ 2  ไฟล์และโฟลเดอร์สำหรับการติดตั้ง

*****************************************************

และต่อไปนี้คือขั้นตอนในการติดตั้งไม่ยากหรอกครับ ถ้าเราเป็น Next Man และ Next Girl หมายถึง Yes , No ,Ok ,Cancel ,Next Next  ทำได้แน่นอน...ลุยกันเลย

1. จากภาพที่ 2 ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ wdexpress_full.exe เพื่อเปิดหน้าต่างตัวช่วยติดตั้ง โดย

• ทำเครื่องหมายถูกที่  I agree to the License terms and conditions.
• คลิกที่ปุ่ม INSTALL เพื่อเริ่มขั้นตอนการติดตั้ง

ภาพที่ 3  แสดงโปรแกรมช่วยในการติดตั้ง VB.NET 2012 Express

2. การติดตั้งง่ายมากๆ เช่นเดิม คือ รอ ๆๆๆ ในระหว่างนี้เล่นอินเตอร์เน็ตได้ตามอัธยาสัย ^^

ภาพที่ 4  แถบแสดงสถานะการติดตั้ง VB.NET 2012 Express

3. และแล้วการรอค่อยที่ยาวนาน (แต่ไม่นานเท่าขั้นตอนการดาวน์โหลดไฟล์) ก็สำเร็จกดปุ่ม LAUNCH เพื่อแสดงเรียกโปรแกรมที่ติดตั้งเสร็จขึ้นมา หรือหากยังไม่พร้อมก็กดปุ่ม X เพื่อปิดไปก่อน

ภาพที่ 5  แสดงการติดตั้ง VB.NET 2012 Express สำเร็จ

4. โอ้ววว..ทำไมถามหา Product Key อืมม...ตั้งสติแล้วก็อ่านต่อครับ โปรแกรมนี้จะหมดอายุภายใน 30 วัน ถ้าลงทะเบียนกับทางไมโครซอฟตร์ก็นำไปพัฒนาโปรแกรมได้ฟรีไม่เสียตังค์  แต่ตอนนี้กดปุ่ม Cancel กินกาแฟกันก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปนะครับ

ภาพที่ 6  หน้าต่างการลงทะเบียน Product key

**************************************************************

อ่านต่อ...

A. ดาวน์โหลดไฟล์ Visual Studio Express 2012

การพัฒนาโปรแกรม ก็จำเป็นต้องมีโปรแกรมในการพัฒนา

          จากข้อความข้างต้น ฟังดูแล้วอาจจะก่อให้เกิดความสงสัยสำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยเขียนโปรแกรมนะครับ เอาเป็นว่างานของนักพัฒนาโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์นั้น ในสมัยนี้กับเทคโนโลยีที่ทุกอย่างที่จะออกแนวสำเร็จรูปไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้นโปรแกรมเมอร์ก็ต้องมีโปรแกรมสำเร็จรูปหรือเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา เพื่อไม่ให้เราเสียเวลาไปกับการสร้าง โค้ดหรือชุดคำสั่ง เช่นเดียวกัน เปรียบได้กับช่างก่อสร้าง ก็จำเป็นต้องมีเครื่องมือของช่างเพื่อเอาไว้สร้างบ้าน (ถ้าไม่มี ขั้นเทพคงต้องเรียกพี่)

          ในบทความในบทความทั้งหมดในบล็อค ผมจะใช้โปรแกรม Visual Studio Express 2012  ของค่าย Microsoft โดยจะต้องเข้าไปดาวน์โหลดตามขั้นตอน หรือท่านใดมีไฟล์อยู่แล้วก็ไม่เป็นไรครับ

1. ดาวน์โหลดโปรแกรม Visual Studio Express 2012 คลิกที่นี่

2. คลิกเลือกรายการที่ 3 Visual Studio 2012 Express for Windows Desktop 

ภาพที่ 1  เลือกรายการเพื่อจะดาวน์โหลด

3. เลือกประเภทการดาวน์โหลดตามสะดวกนะครับ แต่ในที่นี้ถ้าเน็ตแรงหน่อยก็เลือกหมายเลข 2 คือโหลดแบบไฟล์ ISO หรือ คลิกที่นี่  

ภาพที่ 2  ประเภทรายการให้เลือกดาวน์โหลด

• เลข 1  Install now  คือ จะมีโปรแกรมช่วยดาวน์โหลดไฟล์แล้วก็ติดตั้ง
• เลข 2  Download now คือ โหลดเป็นไฟล์ ISO เพื่อจะเก็บเอาไว้หรือเขียนลงแผ่น
• เลข 3  Register now คือ ถ้าเราไม่ลงทะเบียนกับทางไมโครซอฟต์ เขาจะให้ใช้ได้แค่ 30 วัน แต่ถ้าเราลงทะเบียนโดยใช้ Hotmail เราจะสามารถใช้งานได้ตลอดในเวอร์ชั่น Express และสามารถพัฒนาโปรแกรมอย่างสบายใจ แบบไม่ผิดลิขสิทธิ์ด้วย

4. รอๆๆๆ....ดาวน์โหลดให้โหลดไฟล์เสร็จก่อนระหว่างนี้ก็  เล่นอินเตอร์เน็ตตามอัธยาสัย ^^

ภาพที่ 3  รอๆๆๆๆ...ดาวน์โหลดไฟล์

5. เย้ๆๆ...ดาวน์โหลดเสร็จแล้วเน็ต 10 Mb. ใช้เวลา ประมาณ 30 นาที
6. ได้ไฟล์มาแล้วขนาด 607 Mb. ขนาดน้อยจัง ก็แง่หละครับ ก็เวอร์ชั่น Express นี้ตัดคุณสมบัติและการสนับสนุนจากไมโครซอฟต์ตั้งหลายอย่าง แต่ก็ยังใช้พัฒนาซอฟต์แวร์ขนาดกลาง-ใหญ่ได้

ภาพที่ 4  ไฟล์ ISO ของ Visual Studio 2012 Express

7. แตกไฟล์ VS2012_WDX_ENU.ISO จะด้วยวิธีการอะไรก็แล้วแต่ตามความสามารถ หรือจะเขียนลงแผ่นก็ได้ขอให้ได้แบบภาพที่ 5 นะครับ

ภาพที่ 5  ไฟล์และโฟลเดอร์สำหรับการติดตั้ง

****************************************************************

อ่านต่อ...